รมว.ทส.”เฉลิมชัย”นำคณะเยี่ยมสวนสัตว์เชียงใหม่ดูความพร้อมรับแพนด้าคู่ใหม่เนรมิตส่วนจัดแสดง 200 ล้านบาท ฉลองครบรอบ 50 ปีสัมพันธไมตรีไทย-จีน

รมว.ทส.นำคณะเข้าตรวจเยี่ยมสวนสัตว์เชียงใหม่และสำรวจพื้นที่การเตรียมความพร้อมรับหมีแพนด้าคู่ใหม่จากจีนฉลองสัมพันธไมตรีครบ 50ปี ทุ่ม 200 ล.เนรมิตส่วนจัดแสดงใหญ่ขึ้นสร้างเสร็จใน 2 ปี

เชียงใหม่ 9 พ.ย.- ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมทั้งชมสถานที่ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าที่ผ่านมา เพื่อหาข้อสรุปจะปรับปรุงหรือก่อสร้างส่วนจัดแสดงใหม่ ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยมี นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่และผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ให้การต้อนรับและนำตรวจเยี่ยม ในการนี้ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้นำชมพื้นที่ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าที่ผ่านมาในพื้นที่ 4 ไร่ และลงสำรวจพื้นที่ใหม่บริเวณส่วนจัดแสดงเก้ง กวาง วัวแดง ที่มีขนาดพื้นที่ 19 ไร่ โดยได้นำเสนอหลักการให้พิจารณาเหตุผล ความจำเป็น ในการจัดสร้างศูนย์จัดแสดงหมีแพนด้าคู่ใหม่ในไทยโดยมีส่วนประกอบที่มาตราฐานตามเงื่อนไขที่ทางจีนกำหนดในปัจจุบัน หลังจากนั้นสัตวแพทย์หญิง กรรณิการ์ จันทรังษี หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยและสุขภาพสัตว์ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบำรุงสัตว์ ทีมสัตวแพทย์ผู้ที่เคยดูแลหมีแพนด้าในไทยที่ผ่านมา เป็นผู้บรรยายสรุปแนวคิดการใช้พื้นที่ และความสอดคล้องในการแบ่งพื้นที่ตามข้อกำหนด เพื่อเตรียมความพร้อม ด้านการออกแบบสถานที่เลี้ยงสำหรับการรับหมีแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้มีความเหมาะสมทั้งด้านความเป็นอยู่และส่วนที่อยู่อาศัยของพื้นที่การจัดแสดงฯ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าชมหมีแพนด้ายักษ์ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่กันอีกครั้ง
ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า สวนสัตว์เชียงใหม่มีความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งองค์ความรู้ในการบริหารจัดการ ประสบการณ์ และเนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน 50 ปี มีความเป็นไปได้ว่า ทางการจีนจะส่งหมีแพนด้ายักษ์เป็นทูตสันถวไมตรีมาอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นในวันนี้จึงต้องมีการสำรวจความพร้อมให้มากขึ้นและต้องมีพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อสวัสดิภาพที่ดีของหมีแพนด้าและเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้วย ที่ผ่านมาสวนสัตว์เชียงใหม่ได้รับหนังสือจากฝ่ายจีนกล่าวชื่นชมการทำงานในเรื่องการเลี้ยงดูแลหมีแพนด้าอีกด้วย สำหรับพื้นที่ก่อสร้างใหม่อาจจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง1.5-2 ปี ซึ่งผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ และสวนสัตว์เชียงใหม่ก็พร้อมจะบริหารจัดการต่อไป
ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งองค์การสวนสัตว์ฯได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน เบื้องต้นได้มีการจัดทำร่างผังของส่วนจัดแสดงใหม่ไว้เบื้องต้น ซึ่งจะต้องส่งให้ทางการจีนทำการพิจารณาต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา มีนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของสวนสัตว์เชียงใหม่ได้แสดงให้เห็นว่า หมีแพนด้าได้มีการผสมเทียมและขยายพันธุ์ในไทยสำเร็จแล้ว จนทำให้เกิดกระแสแพนด้าฟีเวอร์มาแล้วและมีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมากเหมือนหมูเด้งเวลานี้ ดังนั้นในอนาคตจะต้องสร้างพี่เลี้ยงหมีแพนด้าขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะเป็นเหมือนกับ พี่เลี้ยงของฮิปโปแคระ “หมูเด้ง” ต่อไป

หลังจาก รมว.ทส. รับฟังการรายงานได้ให้สัมภาษณ์ว่า พอใจในความพร้อมที่มีพร้อมให้คำแนะนำผู้บริหารสวนสัตว์เชียงใหม่ ด้านการเตรียมความพร้อมในการรับหมีแพนด้าคู่ใหม่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นทูตสันทวไมตรี ในวาระครบรอบ 50 ปี เชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน เท่าที่มีการพูดคุยก็ควรจะทำให้สถานที่ให้ใหญ่และโอ่โถงกว่านี้ เพราะแพนด้าผูกพันธ์กับการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งพื้นที่ยังคงอยู่ในสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยทางผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่จะทำการจัดสรรสถานที่ให้เรียบร้อย โดยงบประมาณในการดูแลก็เป็นงบประมาณแผ่นดินอยู่แล้ว ภายหลังจากที่มีการเจรจากับทางจีนได้ก็จะดำเนินการก่อสร้างทันที
ขณะที่สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ อดีตทีมพี่เลี้ยงแพนด้า กล่าวว่า สำหรับด้านบุคลากรเรามีความพร้อมอยู่แล้ว คงเหลือด้านสถานที่ก็คงต้องการให้มีความโอ่โถงเหมือนกับทาง รมว.ทส. ได้มีดำริและให้สมกับโอกาสครบรอบ 50 ปี ไทย – จีน ด้วย ถ้าได้น้องหมีแพนด้าคู่ใหม่มา หลังจากที่มีการก่อสร้างสถานที่เสร็จก็จะดำเนินการกันอีก 20 ปี ซึ่งจากประสบการณ์ในการเลี้ยงมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา องค์ความรู้ค่อนข้างแน่นอยู่แล้วและทำให้เรารู้ได้ว่า ควรผสมพันธุ์ เพาะขยายพันธุ์เมื่อไหร่ และต้องสร้างบุคลากรเพิ่มด้วยพร้อมพัฒนาองค์ความรู้ต่อด้วย ก็มีความมั่นใจที่จะดูแลต่อ โดยแผนการก่อสร้างในสถานที่ใหม่นั้นอยู่ในพื้นที่ 19 ไร่ ของสวนสัตว์ งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งสถานที่ใหม่จะกว้างกว่าเดิมสามารถดูแลและเป็นสถานที่ให้แพนด้าได้วิ่งเล่นได้กว้างขวางและรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมากด้วย
จากนั้นถ่ายภาพกับนกแก้ว(บูลแอนด์โกล์มาคอร์)ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้เพาะขยายพันธ์ุได้สำเร็จและสัตว์น่ารักต่างๆด้านหน้าส่วนจัดแสดงกวางฯก่อนเดินทางกลับและได้ลงนามในสมุดเซ็นเยี่ยม พร้อมทั้งได้กล่าวชื่นชมให้กำลังใจการทำงานของทุกคนในสวนสัตว์เชียงใหม่ต่อไปด้วย
นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่กล่าวว่า เริ่มแรกที่สวนสัตว์เชียงใหม่จะได้ประโยชน์ก็คือความสัมพันธ์ไทย – จีน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ และเรื่องที่สองก็เด็กที่พึ่งเกิดและเด็กที่ยังไม่เคยได้เห็นก็จะได้มาเห็นและเรียนรู้จากแพนด้าตัวจริง เพราะสวนสัตว์เป็นแหล่งเรียนรู้อยู่แล้วและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็มีนโยบายอนุรักษ์สัตว์ป่าอยู่แล้ว ซึ่งผู้บริหารทั้งหมดต่างก็ได้เน้นย้ำเรื่องของการอนุรักษ์สัตว์ และแพนด้าก็เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์และมีความน่ารัก ส่วนเรื่องของการเจรจากับทางจีนนั้น เนื่องจากโครงการแรกได้ปิดไปเมื่อปี 2566 และทางจีนได้ทำหนังสือมาที่องค์การสวนสัตว์ฯ ซึ่งเขาได้ชื่นชมว่า สวนสัตว์เชียงใหม่และองค์การสวนสัตว์ฯ ตลอดระยะเวลา 20 ปี ดูแลแพนด้าได้เป็นอย่างดี และเขาได้พูดเสมอว่าอยากให้ประเทศไทยแจ้งเจตจำนงว่า สนใจจะเลี้ยงแพนด้าอยู่หรือไม่ หากมีโอกาสเป็นไปได้ก็อยากจะเชื่อมสัมพันธไมตรีและเลี้ยงหมีแพนด้าต่อไป

ต่อข้อถามว่า ในการเจรจาจะมีโอกาสนำลูกของหมีแพนด้า “หลินปิง” กลับมาจัดแสดงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้หรือไม่นั้น ในเบื้องต้นแม้ “หลินปิง” เป็นลูกหมีแพนด้าที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและเป็นหมีแพนด้าที่คนไทยชื่นชอบ มีความรักและหวงแหน แต่การจะนำหมีแพนด้าเข้ามาจะขึ้นอยู่กับทางฝ่ายจีนว่าจะพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับอายุและวัยของแพนด้าด้วย ตามประวัติที่ผ่านมา แพนด้าที่จะออกไปอยู่นอกประเทศจีนจะมีอายุประมาณ 2 – 3 ปี เท่านั้น ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจฝ่ายจีนที่จะให้ความเห็นชอบแต่ทางเราพร้อมเต็มที่อยู่แล้ว.