ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 11 / 2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีผมตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหน็อ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสียงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ ๒๔ – ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๗ ดังนี้

๑. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป้าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ

          ๑.๑ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงแสน เวียงแก่น ขนตาลพญาเม็งราย เวียงชัย เทิง และแม่ลาว) จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย และเชียงดาว) จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย) จังหวัดตาก (อำเภอเมืองตาก ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอุ้มผาง) จังหวัดลำปาง (อำเภอวังเหนือ แล และงาว) จังหวัดพะเยา (อำเภอเมืองพะเยา แม้ใจ ภูซาง ปง เชียงคำ จุน และเชียงม่วน) จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน เฉลิมพระเกียรติ ปัว ท่าวังผา เวียงสา ทุ่งช้าง เชียงกลาง บ่อเกลือ สองแคว และภูเพียง) จังหวัดแพร่ (อำเภอเมืองแพร่ เด่นชัย สอง ลอง และวังชิ้น) จังหวัดสุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย ศรีสัขนาลัย ทุ่งเสลี่ยม กงไกรลาศ และศรีสำโรง) จังหวัดอุตรดิตถ์ (อ้าเภอเมืองอุตรดิตถ์ ลับแล พิชัย ทองแสนขัน และท่าปลา) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ นครไทย วังทอง และเนินมะปราง) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มเก่า และหล่มสัก)

          ๑.๒ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย (อำเภอนาแห้ว เชียงคาน ด่านช้าย และปากชม) จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย และโพธิตาก) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด นุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง) จังหวัดหนองบัวลำภู (อำเภอเมืองหนองบัวลำฏ ศรีบุญเรือง และโนนสัง) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอเพ็ญ บ้านดุง และหนองหาน) จังหวัดสกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร บ้านม่วง คำตากล้า วานรนิวาส สว่างแดนดิน และพรรณานิคม) จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม บ้านแพง ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า โพนสวรรค์ ปลาปาก และธาตุพนนม)

          ๑.๓ ภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี สังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตีย) จังหวัดราชบุรี (อำเภอสวนผึ้ง และบ้านคา) จังหวัดเพซรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน และหนองหญ้าปล้อง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน ปราณบุรี และบางสะพาน)

          ๑.๔ ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก (อำเภอเมืองนครนายก ปากพลี และบ้านนา) จังหวัดปราจีนบุรี (อําเภอเมืองปราจีนบุรี ประจันตาม นาดี และกบินทร์บุรี) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม ขลุง และแหลมสิงห์) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด บ่อไร่ เขาสมิง แหลมงอบ คลองใหญ่ และเกาะกูด)

          ๑.๕ ภาคใต้ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ) จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี คีรีรัฐนิคม พุนพิน พระแสง และเวียงสระ) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลานสกา ถ้ำพรรณรา และทุ่งใหญ่) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง กันตั้ง ห้วยยอด รัษฎา และวังวิเศษ) จังหวัดพัทลง (อำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน กงหรา ศรีนครินทร์ และควนขนน) จังหวัดสตูล (อ้าเภอเมืองสตล ควนโดน ควนกาหลง ทั้งหว้า และมะนัง)

๒. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๐ บริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

๓. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำน้ำงาว (อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำสาย (อำเภอแม่สายจังหวัดเขียงราย) แม่น้ำอิง (อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย) แม่น้ำน่าน (อำเภอเมืองน่าน เวียงสา เชียงกลาง ภูเพียง และท่าวังมา จังหวัดน่าน) แม่น้ำยม (อำเภอปง เชียงม่วน จังหวัดพะเยา อำเภอเมืองแพร่ สอง และหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ อำเภอเมืองสุโขทัย สวรรรคโลก ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย และกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย อำเภอเมืองพิษณุโลก พรหมพิราม และบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก) แม่น้ำแควน้อย (อำเภอนครไทย และวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก) แม่น้ำป้าสัก (อำเภอหล่มสัก และหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์) ลำน้ำกำกำ (อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนมม) แม่น้ำตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง และบ่อไร่ จังหวัดตราค)

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

๑. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า ๙๐ มิลลิเมตร ในช่วงเวลา ๒๔ ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน

๒. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแชม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำและพนังกั้นน้ำ เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ให้พร้อมใช้งาน และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ

๓. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ชนาดกลาง ชนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และคำนึงถึงอิทธิพลของการขึ้น – ลง ของน้ำทะเล

๔. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์